บันทึกการเรียนครั้งที่ 6
วันอังคารที่ 13 กันยายน 2559
บรรยากาศในห้องเรียน
อาจารย์ให้คัด ก-ฮ แต่ครั้งนี้อาจารย์ให้คัดโยไม่มีเส้นปะแบบตัวบรรจงเต็มบรรทัด ครั้งนี้เป็นการคัดครั้งที่ 2 อาจารย์ให้คัดเพื่อที่จะเปรียบเทียบให้ดูว่านักศึกษามีการพัฒนาในการคัดลายมือที่ดีขึ้นหรือไม่อย่างไร
ผลงานการคัดลายมือครั้งที่ 2
**************************************
หลังจากคัดลายมือกันเสร็จทุกคนอาจารย์ก็ได้เปิดของเล่นวิทยาศาสตร์ของรุ่นพี่ๆที่ทำไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างในการนำไปปรับปรุงของตัวเองให้ดีขึ้น จากนั้นอาจารย์ก็ได้ถามกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดเงาและไม่มีคนตอบถูกอาจารย์เลยให้ไปหาข้อมูลเรื่องเงามา
เงา คือ บริเวณที่แสงไม่สามารถส่องผ่านไปถึงหรือส่องไปถึงเพียงบางส่วนเมื่อมีตัวกลางทึบแสงมากั้นระหว่างแหล่งกำเนิดแสงกับฉาก จึงปรากฏเห็นเป็นเงาซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับวัตถุที่มากั้น โดยเราสามารถแยกเงาได้เป็น2 ชนิด คือ
1. เงามืด เป็นบริเวณที่วัตถุทึบแสงขวางทางเดินของแสงและสามารถบังแสงได้ทั้งหมด ทำให้เกิดบริเวณที่มืดสนิท คือการที่แสงสว่างส่องไม่ถึงอีกด้านหนึ่งนั่นเอง
2. เงามัว เป็นบริเวณที่สว่างเพียงเล็กน้อย เป็นเพราะวัตถุทึบแสงไม่สามารถบังแสงได้ทั้งหมด
ส่วนความกว้างของเงามืดและเงามัวนั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของแหล่งกำเนิดแสง วัตถุกั้นแสง ฉากรับแสง และระยะห่างของแหล่งกำเนิดแสงกับวัตถุที่กั้นแสง
ประโยชน์ของเงา
มนุษย์สามารถใช้ประโยชน์จากเงาที่เกิดขึ้นได้ ดังนี้
1. ภูมิปัญญาของคนไทยในสมัยโบราณใช้การเกิดเงาในการประกอบอาชีพ เช่น นำไปใช้ในการแสดงหนังตะลุง หรือใช้มือทำให้เกิดเงาเป็นรูปร่างๆ เพื่อประกอบการเล่านิทาน
2. คนไทยในสมัยก่อนอาศัยการสังเกตเงาที่เกิดจากดวงอาทิตย์นำไปใช้ประโยชน์ในการประมาณเวลาได้ เช่น ถ้าเกิดเงาที่ทอดยาวแสดงว่า ขณะนั้นเป็นเวลาเช้าหรือเย็น ถ้าเงาสั้นลง แสดงว่า เป็นเวลาสายหรือบ่ายแต่ถ้าเงาสั้นมากจนเกือบมองไม่เห็นแสดงว่า ขณะนั้นเป็นเวลาเที่ยงวันเนื่องจากดวงอาทิตย์จะอยู่เหนือศีรษะพอดี
เงากับการเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ
โลก ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ทุกดวงจัดเป็นตัวกลางทึบแสง เมื่อดวงอาทิตย์ส่องแสงมากระทบจึงบังแสงไม่ให้ผ่านไปได้ทำให้เกิดเงามืดหรือเงามัวขึ้นได้ จากความรู้ที่ผ่านมานั้น โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์โคจรรอบโลก และดวงอาทิตย์หมุนรอบตัวเอง เมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ทั้งโลกและดวงจันทร์ต่างก็เป็นตัวกลางทึบแสง จึงทำให้เกิดการบังของเงาขึ้นเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า สุริยุปราคาและจัทรุปราคา
- สุริยุปราคา เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลากลางวัน เมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และโลกโคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน มีดวงจันทร์ซึ่งเป็นตัวกลางทึบแสงอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับโลก ดวงจันทร์จึงบังแสงจากดวงอาทิตย์ไม่ให้ส่องผ่านมายังโลก จึงเกิดเงาของดวงจันทร์ทอดมายังโลก ทำให้คนบนโลกที่อยู่ในบริเวณเงามองไม่เห็นดวงอาทิตย์ หรือเห็นไม่เต็มดวง เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า สุริยุปราคา
- จันทรุปราคา เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลากลางคืนช่วงที่ดวงจันทร์เต็มดวง เมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์โคจรอยู่ในแนวเดียวกัน ซึ่งมีโลกอยู่ตรงกลางโลกเป็นตัวกลางทึบแสงและมีขนาดใหญ่กว่าดวงจันทร์จะบังแสงจากดวงอาทิตย์ไม่ให้ส่องผ่านไปถึงดวงจันทร์ จึงเกิดเงาของโลกบังดวงจันทร์ได้เต็มดวงเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า จันทรุปราคา
*************************************
มาตรฐานการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์
สาระที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต
มาตรฐาน ว 1. 1 เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตที่ทำงานสัมพันธ์กัน มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในการดำรงชีวิตของตนเองและดูแลสิ่งมีชีวิต
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพที่มีผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสาร สิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 2 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
มาตรฐาน ว 2. 1 เข้าใจสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระดับท้องถิ่น ประเทศ และโลกนำความรู้ไปใช้ในในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
สาระที่ 3 สารและสมบัติของสาร
มาตรฐาน ว 3. 1 เข้าใจสมบัติของสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจหลักการและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสาร การเกิดสารละลาย การเกิดปฏิกิริยา มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 4 แรงและการเคลื่อนที่
มาตรฐาน ว 4. 1 เข้าใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงโน้มถ่วง และแรงนิวเคลียร์ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องและมีคุณธรรม
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจลักษณะการเคลื่อนที่แบบต่างๆ ของวัตถุในธรรมชาติมีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 5 พลังงาน
มาตรฐาน ว 5. 1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดำรงชีวิต การเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มีกระบวน การสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 6 กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก
มาตรฐาน ว 6. 1 เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวโลกและภายในโลก ความสัมพันธ์ของกระบวนการต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และสัณฐานของโลก มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
มาตรฐาน ว 7. 1 เข้าใจวิวัฒนาการของระบบสุริยะ กาแล็กซีและเอกภพการปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะและผลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ การสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 7.2 เข้าใจความสำคัญของเทคโนโลยีอวกาศที่นำมาใช้ในการสำรวจอวกาศและทรัพยากรธรรมชาติ ด้านการเกษตรและการสื่อสาร มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์อย่างมีคุณธรรมต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม
สาระที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 8. 1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ เข้าใจว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน
***************************************************
กิจกรรมต่อมาคืออาจรย์นำของเล่นวิทยาศาสตร์มาให้นักศึกษาลองเล่นและลองสังเกตการเปลี่ยนแปลง หรือปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตุ๊กตาที่วางอยู่หน้ากระจก กับการวางกระจกแบบกางออกกว้างๆกับการวางกระจกแบบเเคบ
การวางดอกไม้กลีบเดียวหน้ากระจกที่ความกว้างในการกางที่ต่างกัน ทำให้จำนวนกลีบของดอกไม้นั้นเพื่มขึ้น
การขยับของภาพ
ของเล่นวิทยาศาสตร์เรื่องสี
**************************************************
ทักษะที่ได้รับ
1.หลักการคัดลายมือ
2.ความรู้เรื่องเงา
3.ทักษะการคิดสร้างสรรค์
4.การออกแบบของเล่น
5.การทดลอง
การประยุกต์ใช้
การทำของเล่นที่เด็กสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้เองและสามารถนำไปต่อยดการเรียนรู้ได้ในอนตค การสร้างสรรค์สิ่งที่แปลกใหม่น่าค้นหาและน่าเรียนรู้ที่เหมาะสมกับพัฒนาการและวัยของเด็กในแต่ละช่วง
ประเมินผล
ประเมินตนเอง มีความตั้งใจและได้ความรู้เรื่องเงา เรื่องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่เหมาะกับเด็ก
ประเมินเพื่อน เพื่อนมีความสนใจและและตั้งใจในการทำงานที่ครูสั่ง
ประเมินอาจารย์ อาจารย์มีหลักการสอนที่น่าสนใจ และมีการยกตัวอย่างเพื่อที่จะให้นักศึกษาได้เห็นภาพที่ชัดเจนในการทำงาน
************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น